เราจะเริ่มกันตรงไหนดี ..
จะขอย้อนเกริ่นถึงสิ่งที่กล่าวยกมาในเบื้องต้นไว้ อีกสักนิด ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องที่ได้กล่าวผ่าน ๆ มา มิใช่เนื้อหาสาระทั้งหมดของวิชา LANDSCAPE ซึ่งความเป็นจริง มีรายละเอียดเรื่องราวที่มาของขั้นตอนวิธีการ ที่ยุ่งยากอีกมากมาย ในที่นี้จึงเป็นเพียงบทนำของภาพรวมและสาระที่สามารถเห็นได้ชัดขึ้น เพื่อประติดประต่อเรียบเรียงขั้นตอน ให้ดำเนินต่อไปได้โดยถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของวิชา LANDSCAPE และในที่นี้จะไม่ขอกล่าวในรายละเอียด เรื่องราววิชาการไปมากกว่านี้ ซึ่งก็จะเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน และคงจะไม่กลับย้อนไปถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปให้ไปไกลโพ้นเพื่อนับญาติกัน ถึงยุค อียิปต์ กรีก โรมัน หรือสวนบนสวรรค์ชั้นฟ้า (PARADIS GARDEN) ให้เสียเวลา และสับสนวุ่นวายรกสมองอย่างที่เคยทราบกันมาดีอยู่แล้ว ในระบบของการศึกษาที่ผ่านมา ชึ่งคงไม่จำเป็นเท่าใดนัก
ในส่วนนี้ เรามาเริ่มมองปัญหาในส่วนของงาน LANDSCAPE เเละการเป็นนักออกเเบบ จริง ๆกัน บ้างดีกว่า โดยอาจจะมีบางส่วนชึ่งค้างคาใจอยู่ และยังไม่กล้าพอ หรือคงเป็นเพราะความไม่พร้อมของความสามารถในแต่ละบุคคล หรือความไม่ชัดเจนที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ เนื่องจากที่ได้กล่าวมาในข้างต้นที่ได้ชี้ให้เห็นความหลากหลาย ที่เห็นได้ในตัวของวิชา LANDSCAPE ต่อการทำงาน ที่ต้องมีความรู้ มีเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาชีพอื่น ๆ ต่าง ๆ อีกมากมายด้วย ซึ่งย่อมเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง ที่บุคคลคนเดียว จะมีความรู้ความสามารถเก่งกาจไปได้ในทุกด้าน แต่ในการที่จะปฏิบัติตัวเพื่อเป็นภูมิสถาปนิกนักออกเเบบที่ดีในวิชาชีพนี้ จริงๆเเล้ว ก็ควรจะต้องรู้ไปพร้อมกันในทุกเรื่อง แต่อาจจะต้องมีความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้าน ที่เป็นพิเศษเฉพาะตัวอยู่เป็นหลักบ้าง เพราะขอบเขตของงานมีกว้างขวาง และจะเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เข้าสู่สังคม เพื่อสร้างสรรค์งานร่วมกับผู้อื่น โดยตัวเราเป็นหลักที่ดีให้ได้ และยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นในสาขาวิชาชีพที่เราไม่ถนัด และพัฒนาตัวเองหาความรู้เพิ่มประสบการณ์ ทำงานอย่างมีเหตุผลและยอมรับกระบวนการทางเทคโนโลยีสมัยใหม่นำ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับงานและตัวเอง ให้ทันยุคทันสมัยอยู่เสมอต่อไป
ดังนั้น แนวทางในการพัฒนาวิชาชีพ LANDSCAPE ที่เป็นอยู่ในปัจจุปัน จึงควรต้องมีการปรับแนวทางให้เป็นกลาง โดยไม่แยกฝ่ายไปเป็น HARDSCAPE & SOFTSCAPE อย่างที่เป็นอยู่กันตามความถนัดและความรู้สึกของแต่ละคนอย่างเช่นทุกวันนี้ จนทำให้เกิดปมเด่น และปมด้อยของวิชาชีพขึ้นในสังคม ซึ่งแยกกลุ่มแยกพวก เพื่อกลบเกลื่อนจุดด้อยของตน โดยในความเป็นจริงแล้ว สาระของวิชา LANDSCAPE ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง หรือต้องเอนเอียงไปทางใด แต่เป็นวิชาที่สร้างสรรค์จรรโลงโลก ซึ่งท้าทายความสามารถของทุกคน และต้องการให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันสร้างความถูกต้อง สวยงามให้แก่โลกและสังคมของเรา ด้วยความเข้าใจเเละสำนึก
|